ขนมไทย จ่ามงกุฎ

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆรู้มั้ยคะว่า 1 ในขนมมงคลของไทยก็คือ จ่ามงกุฎ และวันนี้ฉันก็มีสูตรวิธีการทำขนมจ่ามงกุฎสำหรับผู้ที่สนใจอยากจะทำขนมไทยนะคะ *///* 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ จ่ามงกุฎ

จ่ามงกุฎ (ขนมไทย) อีกหนึ่งขนมไทยที่ปัจจุบันหาทานได้ยาก เนื่องจากขั้นตอนและการทำที่ใช้เวลานาน  โดยส่วนผสมหลักของตัวขนม จะคล้ายๆ ขนมทองเอก ซึ่งประกอบไปด้วย แป้งสาลั ไข่ไก่ น้ำตาลและกะทิ แล้วตกแต่งด้วยเม็ดแตงโมที่ชุบน้ำตาลโดยรอบให้เป็นรูปมงกุฏ ในบางครั้งจะมีการประดับทองคำเปลวที่ทานได้ลงไปด้วย ในสมัยโบราณจัดเป็นขนมมงคลและนิยมจัดเป็นเครื่องเสวยในราชสำนัก

วัตถุดิบจ่ามงกุฎ (ขนมไทย)

ระยะเวลา 6-7 ชม.
ประมาณ 20-25 ชิ้น

เม็ดแตง
1. เม็ดแตงโมแกะ
2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
3. น้ำ 1/4 ถ้วย

ตัวมงกุฎ (ทองเอก)
4. แป้งสาลี บัวแดง 1/2 ถ้วย
5. ไข่ไก่ (แยกเอาไข่แดง + กะทิ 1/2 ถ้วย คนให้เข้ากัน) 6 ฟอง
6. น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
7. กะทิ (กะทิกล่อง 3/4 ถ้วย + น้ำ 1 ถ้วย) 1 ถ้วย

ฐานมงกุฎ (กวน)
8. แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
9. ไข่ไก่ (แยกไข่แดง) 1 ฟอง
10. น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำเชื่อม (กาว) ถ้วยตะไล

อุปกรณ์ที่ใช้

กระทะทอง

วิธีทำจ่ามงกุฎ (ขนมไทย)

 1. เม็ดแตง
1.1 น้ำเชื่อม – หม้อใส่น้ำกับน้ำตาล คนเล็กน้อย ตั้งไฟให้เดือดประมาณ 5 นาที (ไม่คน) ใส่ชาม (ที่เอามือจุ่มได้) พักไว้พออุ่น
1.2 ติดเตาถ่าน 2-3 ก้อน หรือเตาแก๊สต้อง ใช้ไฟอ่อนสุด – กะทะทองใส่เม็ดแตง ตั้งไฟ ใช้มือกวาดไปมา คั่วเม็ดแตงให้สุก ประมาณ 30 นาที (ถ้าใช้ไฟแรง เม็ดแตงจะพองแตก หรือไหม้ได้)
1.3 ปลายนิ้วจุ่มในน้ำเชื่อมพอเคลือบนิ้ว (ถ้าน้ำเชื่อมชุ่มไปสะบัดออก เพราะจะทำให้เป็นการเคลือบน้ำตาลเมด็แตง) กวาดไปมากับเม็ดแตงในกะทะ อีกมือจับกะทะประคองให้ตั้งเอียงไว้ คอยสังเกตดูถ้าเม็ดแตงแห้ง เอามือจุ่มน้ำเชื่อม กวาดเม็ดแตง ถ้ากระทะร้อนเกินไปจนมือเราทนไม่ได้ กลับกะทะอีกด้าน (เปลี่ยนด้าน และเมื่อก้นกะทะเลอะมีเศษน้ำตาลเกาะ ใช้ผ้าชุ่มน้ำหมาดๆ เช็ดให้แห้ง เช็ดให้สะอาดทั่วกระทะ เพราะก้นกระทะสะอาด กระทะจะลื่น ทำให้กวาดเม็ดแตงได้) แต่มือก็ยังกวาดไปมาต่อไป ทำต่อไปเรื่อย ๆ แบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา ใช้เวลากวาดเม็ดแตงจนขึ้นหนามใช้เวลาประมาณ 2 1/2 – 3 ชม. (ถ้านานเกินหนามอาจหักหมด) เก็บเม็ดแตงใส่ถุงไว้ ส่วนน้ำเชื่อมเก็บไว้เพื่อใช้เป็นกาวในการประกอบขนม
2. ตัวมงกุฎ (ทองเอก)
2.1 อ่างใส่แป้งสาลี น้ำตาล กะทิ1/2 ถ้วย (ค่อยๆ ใส่) ใช้พายยางคนให้เข้ากัน ให้น้ำตาลละลาย ใส่ไข่แดงที่ผสมในกะทิ 1/2 ถ้วย  คนให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าข้าวบางเทใส่กะทะทอง คนก่อนขึ้นตั้งไฟทุกครั้ง (ส่วนผสมนอนก้น) ใช้ไฟอ่อนที่สุด  กวนช้าๆ เป็นวงกลม พอส่วนผสมเริ่มข้นขึ้น กวนแบบชักขึ้นลงไปมาช้าๆ (ไม่กระชาก เพราะจะทำให้แตกมัน)
2.2 การกวนขนม – ใช้มือแต่ข้างกะทะทองเพื่อตรวจดูอุณหภูมิ ถ้าร้อนเกินมือจับได้ ยกลงวางบนถาดที่มีผ้าเปียกน้ำ  กวนขนมต่อไป จนรู้สึกว่ากะทะเริ่มเย็นตัวลง ยกขึ้นตั้งไฟใหม่ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ใช้เวลากวนประมาณ 1 1/2ชม ดูแป้งข้นเหนียว  ยกลงจากเตาพักไว้ (แป้งที่เหลือใช้จากการทำจ่ามงกุฎ นำไปอัดในพิมพ์ทองเอกได้ (แป้งเหมือนกัน)
3. ฐานมงกุฎ – อ่างใส่แป้งสาลี (ไข่แดงที่คนผสมกับน้ำ) ค่อยๆ ใส่ทีละนิด ดูอย่าให้เหลวเกินไป (ถ้าเหลวเติมแป้งเพิ่ม) นวดเคล้าพอเป็นก้อน คลึงบนไม้กระดานให้เป็นแผ่นหนา 0.1 ซม.  ใช้พิมพ์กด วางใส่ในก้นถ้วยตะไล ใช้ไม้จิ้มฟันเจาะให้เป็นรู นำเข้าอบ (350องศา) ดูให้เหลืองกรอบ
4. การประกอบขนม – ฐาน (ถาด)ที่อบสุกแล้ว นำเม็ดแตงโมขนาดเท่าๆกัน (ที่กวาดหนามแล้ว) ติดรอบฐานด้วยน้ำเชื่อม (6-7 เม็ด ถาดเล็ก 8-9เม็ด) ทิ้งให้แห้ง ตัวมงกุฎ (แป้งทองเอกที่กวนไว้) ปั้นเป็นก้อนกลม กะขนาดพอวางบนฐาน ใช้สันมีดคว้านบั้ง (เหมือนสัญลักษณ์ดอกจันทร์) ทำให้เป็น 6 กลีบ ปั้นแป้งอีกส่วนเป็นวงกลมเล็กติดตรงกลางเป็นยอด (ถ้าไม่ติดใช้น้ำมันทาเล็กน้อย) ใช้ปลายมีดเขี่ยทองคำเปลว ติดตรงกลางส่วนยอดอีกที วางใส่จาน นำไปอบควันเทียนในรังถึง

 

ที่มารูปภาพ http://thaidessertsthaifood-pechlada-pk.blogspot.com/2011/07/blog-post_02.html และ https://board.postjung.com/962263.htm

ขอบคุณที่มาจาก – http://www.foodtravel.tv/recipe.aspx?viewid=1612

และ     https://www.youtube.com/watch?v=P4tj_8T3z80

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การ์ตูนเคลื่อนไหว

เมนูเด็ดห้ามพลาด!เมื่อไปโอซาก้า

ฉันอยากไปญี่ปุ่นมากๆเลยค่ะ เฮ้อออ!เมื่อไหร่จะได้ไปรอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ วันนี้ก็เลยได้มีโอกาสมาแปะอาหารห้ามพลาดเมื่อไปที่โอซาก้า,ญี่ปุ่น เผื่อในอนาคนฉันจะได้ไปบ้าง ฮ่าๆๆ  *0*

ซูชิ

3356536252_6d799db93e_b

 

เราไม่เถียงหรอกนะคะว่าในประเทศญี่ปุ่น จานซูชินั้นเป็นอาหารยอดนิยมที่มีอยู่ทั่วทุกภูมิภาคและทุกเมืองก็ว่าได้ แต่รู้ไหมว่าทำไมเราถึงแนะนำให้คุณลิ้มลองซูชิที่นี่ นั่นก็เพราะความสด หวาน อร่อย ที่มาในราคาไม่แพงยังไงล่ะคะ ซึ่งที่โอซาก้าเนี่ยก็มีร้านซูชิอยู่มากมาย โดยเฉพาะแถวๆ แหล่งช้อปปิ้งอย่างย่าน Dotonbori แต่ถ้าจะให้ฟินจริงๆ ผู้เขียนก็คงจะแนะนำให้คุณนั่งรถไฟสาย Sennichimae Line มาลงสถานี Tamagawa station แล้วออกทางออก Exit 3 จากนั้นเดินมาอีกซักหน่อย ก็จะเจอตลาดปลา Chuo Oroshi-uri Ichiba อยู่ทางขวามือแล้วล่ะค่ะ ที่นี่มีร้านซูชิชื่อดังคือ Endo Sushi ตั้งอยู่หน้าตลาด ถ้าไปในช่วงเช้าๆ หน่อยจะคิวไม่ค่อยยาวเท่าไหร่

โอโคโนะมิยากิ

3028821745_ee91c58d66_b

 

อีกหนึ่งจานยอดนิยมที่หากไม่ได้ชิมอาจเรียกว่ามาไม่ถึงโอซาก้าเลยก็ได้ เป็นอาหารจานหอมกรุ่นซึ่งเต็มไปด้วยส่วนผสมที่น่ากิ๊นน่ากิน ทั้งหัวหอม กะหล่ำปลี เส้นยากิโซบะ หมูสามชั้น ปลาหมึก กุ้ง โมจิ และชีส ที่มีลักษณะคล้ายๆ กับแพนเค้ก แต่บางคนก็ว่าคล้ายพิซซ่ามากกว่า นั่นก็คือเมนูจาน “โอโคโนะมิยากิ” หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่าพิซซ่าญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ เมนูนี้ก็ถือว่าหากินได้ง่ายมากเลยนะคะ โดยเฉพาะแถบๆ Dotonbori อีกเช่นเดิม แต่ถ้าให้ผู้เขียนแนะนำร้านอร่อย ต้องไปที่ชั้นใต้ดินของตึก Umeda Sky ที่นี่มีร้านโอโคโนะมิยากิแสนอร่อยชื่อ Kiji Okonomiyaki ที่ราคาไม่แรงเลยค่ะ (จานละไม่ถึงหนึ่งพันเยน) โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.30-21.30 น.ของทุกวัน

ทาโกะยากิ

47080179_749b74125d_o

 

เมื่อพูดถึงโอโคโนะมิยากิ แน่นอนว่าเราก็ต้องคิดถึงอีกเมนูหนึ่งที่มาคู่กันและโด่งดังไม่แพ้กันอย่างทาโกะยากิ เมนูอาหารว่างจานเด็ดของโอซาก้าที่มากันหลากไส้ หลายหน้า และรสชาติที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ซอสที่จะช้าด ไม่ว่าจะเป็นทาโกะยากิไส้ปลาหมึกราดหน้าต้นหอมซอยโปะไข่ลวก ราดมายองเนส หรือราดซอสเปรี้ยวพอนซึ เป็นต้น โดยแหล่งที่สามารถหากินทาโกะฯ ได้ง่ายๆ ก็ในย่าน Dotonbori เช่นเดิมล่ะค่ะ ซึ่งร้านยอดนิยมในแถบนี้ก็ได้แก่ れおーる ที่แต่ละวันจะมีคิวมารอกันอย่างยาวเหยียด แต่ก็คุ้มค่ากับรสชาติและราคานะคะ

เนื้อโกเบ

14676651197_2eebc57809_z

 

มาเที่ยวแถวคันไซ อาหารขึ้นชื่อสุดๆ ในแถบนี้คงหนีไม่พ้นสุดยอดเนื้อวัวอย่างเนื้อโกเบเป็นแน่แท้ ซึ่งเนื้อโกเบนี้จะมีความโดดเด่น เพราะจะมีฟองไขมันเม็ดละเอียดแทรกซึมอยู่ในทุกอณูของเนื้อแดง จึงให้เนื้อมีความนุ่ม ประหนึ่งจะละลายในปาก อีกทั้งฟองไขมันยังส่งผลให้เนื้อมีความหอมหวานกว่าปกติอีกด้วยค่ะ โดยแหล่งขายเนื้อโกเบที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้านั้นจะอยู่ที่ตลาด Kuromon Ichiba แถวๆ สถานี Nippombashi Station นั่นเองค่ะ แต่ถ้าอยากทานยากินิคุเนื้อโกเบอร่อยๆ ในราคาสุดคุ้มก็ต้องไปที่ร้าน Tsurugyu ซึ่งตั้งอยู่แถวๆ สถานีนัมบะนั่นเอง

อุด้ง

128908910_b9b417ab8d_b

 

มาถึงเมนูจานเส้นกันบ้างค่ะ อันนี้ผู้เขียนยอมรับเลยว่าจริงๆ แล้วไม่ค่อยชอบอาหารประเภทเส้นสักเท่าไหร่ แต่ต้องยอมรับว่าอุด้งของทางโอซาก้านี่อร่อยจริงๆ ค่ะ เส้นเหนียวนุ่ม รสชาติกลมกล่อม ยกมาเสิร์ฟร้อนๆ ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มก็อร่อยเหาะแล้ว ซึ่งอุด้งของที่นี่ ในแต่ละร้านสูตรก็จะแตกต่างกันออกไปนะคะ ยกตัวอย่างเช่น ร้าน Usami-tei Matsubaya ที่ตั้งอยู่แถวๆ สถานี Shinsaibashi ก็จะมีเมนู Kitsune Udon ที่เป็นเมนูยอดนิยมของคนที่นี่ ส่วนร้าน Kuromon Sakae ที่ตั้งอยู่บริเวณสถานี Kitashinchi ร้านนี้ก็จะขึ้นชื่อในเรื่องของอุด้งเส้นเรียว ที่มาพร้อมสารพัดหน้า ทั้งเนื้อห่าน หน่อไม้อ่อน เห็ดเข็มทอง เป็นต้น

ฟุงุ

Fugu

 

ฟุงิหรือปลาปักเป้า เป็น 1 ในเมนูยอดนิยมของคนโอซาก้าค่ะ แม้ว่าในเนื้อปลาปักเป้าจะเต็มไปด้วยสารพิษที่มีชื่อว่า เตโตรโดท็อกซินที่มีอันตรายและรุนแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,200 เท่าก็ตาม นั่นก็เพราะว่าร้านที่จะขายฟุงุได้นั้นจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวดค่ะ และเชฟก็จะต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด รวมทั้งต้องได้รับใบอนุญาตให้สามารถเตรียมฟุงุได้ด้วย ซึ่งร้านอาหารปลาปักเป้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโอซาก้านั้นคือ ร้าน Zuboraya ที่จะมีป้ายปลาปักเป้าสามมิติเป็นสัญลักษณ์โดดเด่นอยู่หน้าร้าน โดยเมนูยอดนิยมของทางร้านก็ได้แก่ ซาซิมิปลาปักเป้าหั่นชิ้นบางเฉียบ ส่วนหน้าหนาวก็จะมีเมนู Tetchiri หรือหม้อไฟปลาปักเป้าที่ใครๆ ก็ต้องสั่ง

ฮิยาชิ อาเมะ

25228844950_467536eb3f_z

 

ฮิยาชิ อาเมะ เป็นเครื่องดื่มประจำช่วงฤดูร้อนเมนูยอดนิยมของทางคันไซเค้าล่ะค่ะ โดยส่วนประกอบหลักที่ใช้ทำนั่นก็คือขิงหวาน เนื่องจากว่าชาวญี่ปุ่นในแถวบนี้เค้าเชื่อว่า เวลาอากาศร้อนๆ เนี่ย รสชาติเผ็ดของขิงจะช่วยให้เราเอาชนะความเหนื่อยล้าจากแสงแดดได้เป็นอย่างดีค่ะ เพราะฉะนั้นเวลาที่เราเข้าไปนั่งตามคาเฟ่ หรือกาแฟในช่วงฤดูร้อน ก็จะมีเมนูฮิยาชิ อาเมะ แก้วเย็นฉ่ำให้สั่งมาดื่มคู่กับขนมจานโปรดด้วยแหละค่ะ

โอโทโร่

15945029014_50f47d5430_o

 

จานที่ 8 เรียกว่าเป็นราชันย์ของจานซาซิมิและซูชิเลยก็ว่าได้ค่ะสำหรับ “โอโทโร่” หรือเนื้อส่วนท้องของปลาทูน่าซึ่งเป็นส่วนที่อร่อยที่สุด เพราะเป็นส่วนที่มีไขมันแทรกซึมอยู่ในทุกตารางนิ้วของเนื้อปลาจนกลายเป็นลายหินอ่อนที่สวยงาม แถมยังหวานนุ่มจนแทบละลายในปากเลยล่ะค่ะ ส่วนราคานั้นก็ตามคุณภาพล่ะค่ะ เนื่องจากเป็นส่วนที่มีน้อยในตัวปลา ราคาก็เลยแพงกว่าปกติ แต่ถ้าหากอยากได้ราคาที่ถูกลงมาหน่อย ก็ต้องไปที่ตลาด Kuromon Ichiba อีกเช่นเคย เพราะที่นี่จะเต็มไปด้วยอาหารสดที่มีราคาถูกกว่าที่อื่นๆ นั่นเอง

Tako Tamago

25950208174_860ad3de91_k

 

ถ้าใครที่เคยไปเที่ยวในแถบคันไซมาก่อน หากสังเกตดีๆ จะเจอเมนูนี้วางขายตามร้านอาหารข้างทางค่ะ โดยเฉพาะแถวๆ เกียวโตนี่จะวางขายเยอะมาก แต่ที่โอซาก้าเองก็มีเหมือนกันค่ะที่ตลาด Kuromon Ichiba โดยรูปร่างของอาหารจานนี้ก็จะเป็นปลาหมึกยักษ์ตัวเล็กๆ หรือลูกปลาหมึกยักษ์ นำมายัดไส้ด้วยไข่นกกระทาทั้งใบลงในหัวปลาหมึก ทานกับซอสรสชาติเค็มๆ หวานๆ อร่อยดีค่ะ เคี้ยวหนุบเคี้ยวหนับแป๊บๆ หมดแล้ว ขอแนะนำเลยค่ะเมนูนี้

อามะโอะ สตรอว์เบอร์รี

6991756662_6d20e0ebae_k

 

อามะโอะ เป็นยี่ห้อของสตรอว์เบอร์รีชื่อดังในเขตคันไซค่ะ นอกจากนั้นยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ของสตรอว์เบอร์รีสดที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งอามะโอะ สตรอว์เบอร์รีนั้นมีวางขายตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไปค่ะ ส่วนรสชาติก็หวานอร่อย กรุบกรอบ กินได้เพลินๆ เกินห้ามใจ ยิ่งถ้าไปหลายคนนี่ ไม่ถึงหนึ่งนาทีก็หมดถุงแล้ว อ้อ เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากกลับบ้านด้วยนะคะ

ผลิตภัณฑ์จากมัทฉะ

3660923139_b7386c5d9c_b

 

ที่โอซาก้า ไม่ว่าจะเป็นเค้ก โมจิ ไอศกรีม ฯลฯ ทุกอย่างล้วนต้องมีรสมัทฉะแทบทั้งสิ้นค่ะ ถือเป็นรสชาติยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นหากไปที่นู่น ขนมที่มีส่วนผสมของมัทฉะเราต้องไม่พลาด โดยเฉพาะไอศกรีม Haagen-Dazs Japonais รสมัทฉะนี่ขอบอกว่าอร่อยแท้ๆ มีขายตาม 7-Eleven ทั่วไปค่ะ ซึ่งความโดดเด่นของมันก็คือ ภายในจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ชั้น คือมีรสชาติของคาราเมล มัทฉะ ถั่วแดง แลวานิลลาอยู่ในกล่องเดียวกัน เรียกได้ว่าซื้ออันเดียวนี่คุ้มมาก เพราะได้กินไอศกรีมถึง 4 รสชาติรวมกันแน่ะ ส่วนของฝากกลับบ้าน ก็ต้องนี่เลยค่ะ ป๊อกกี้ รสมัทฉะ อร่อยมากบอกเลย

ว้าวววมีแต่ของน่าอร่อยทั้งนั้นเลยค่ะ *0* ถ้าฉันได้ไปญี่ปุ่นฉันจะะไม่พลาดของน่าอร่อยทั้งหลายนี้แน่นอนค่ะ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การ์ตูนเคลื่อนไหวนำ้ลายไหล

ขอบคุณที่มาจาก – http://www.mushroomtravel.com/page/11-best-foods-in-osaka/

ผักโขมอบชีสสสส

วัตถุดิบผักโขมอบชีส Baked Spinach with Cheese

สำหรับ 2-3 ที่

1. ผักปวยเล้ง (ผักโขม) 2-3 กำ
2. มอสซาเรลล่าชีสหั่นเต๋า 1-2 ถ้วยตวง
3. ครีม 1 ถ้วยตวง
4. หอมใหญ่สับ ? ลูก
5. เบค่อน 1 ถ้วยตวง
6. กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
7. น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
8. ไทม์ 1-2 ก้าน

วิธีทำผักโขมอบชีส Baked Spinach with Cheese

1. ตั้งกะทะให้ร้อน ลงเบค่อนทอดให้กรอบ จากนั้นแยกออกพักไว้
2. ลงน้ำมันมะกอกเล็กน้อยแล้วผัดหอมใหญ่กับกระเทียมให้สุกหอม จากนั้นลงปวยเล้งลงมาผัดให้สุกนิ่มพร้อมกับไทม์ ปรุงรสด้วยเกลือพริกไทย จากนั้นลงครีมลงมาผัดให้ข้นเข้ากัน
3. ตักส่วนผสมของเราลงในถาดอบ โรยหน้าด้วยเบค่อนทอดกรอบที่แยกไว้ จากนั้นโรยด้านบนสุดด้วยมอสซาเรลล่าชีส แล้วเข้าเตาอบที่ 180 องศา ประมาณ 10 นาที หรือให้ชีสละลายได้สีสวยก็เป็นอันพร้อมเสิร์ฟครับ

ขอบคุณที่มาจาก – http://www.foodtravel.tv/recipe.aspx?viewid=1042

เทคนิคฝึกสุนัขไม่ให้กัดข้าวของ

1. ไม่ปล่อยให้ลูกสุนัขแทะ กัดมือเล่น
      เมื่อลูกสุนัขจะเริ่มคันฟัน พวกเขาจะดม เลีย กัดแทะมือของผู้เลี้ยง ผู้เลี้ยงไม่ควรปล่อยลูกสุนัขกัดแทะเล่น เพราะจะทำให้เคยตัว สร้างนิสัยที่ไม่ดีให้แก่ลูกสุนัข พวกเขาจะเข้าใจผิดว่าการกัดแทะเป็นสิ่งที่ยอมรับได้นั่นเอง
2. ฝึกห้ามไม่ให้ลูกสุนัขกัดแทะข้าวของ 
     เมื่อเห็นลูกสุนัขกำลังกัดแทะข้าวของอยู่ ให้ออกคำสั่งว่า “ไม่” แล้วดึงของออกจากปาก สั่งให้ “นั่ง” เมื่อลูกสุนัขอยู่ในอาการที่สงบจากนั้นสามารถให้ขนม หรือ ของเล่นที่พวกเขาโปรดปรานเป็นรางวัลได้นะคะ ไม่ควรทำโทษลูกสุนัขหากไม่เห็นพวกเขาในขณะที่กำลังกัดแทะข้าวของอยู่ เพราะพวกเขาจะไม่เข้าใจว่าตัวเองทำผิดอะไรถึงถูกทำโทษ ส่งผลให้ลูกสุนัขเกิดความเครียดได้ค่ะ
3. เบี่ยงเบนความสนใจลูกสุนัขด้วยของสุดโปรด 
     ช่วงที่ลูกสุนัขกำลังมองหาของแทะเล่นภายในบ้าน ให้ผู้เลี้ยงเบี่ยงเบนความสนใจด้วยขนมสแน็คมีกลิ่นหอม หรือของเล่นที่บีบแล้วมีเสียงดัง เพื่อให้พวกเขาลืมสิ่งของที่กำลังกัดแทะ พวกเขาจะรับรู้ว่ามีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าอยู่ตรงหน้า
4. ฝึกให้ลูกสุนัขปล่อยของแทนการทำโทษ
      เมื่อลูกสุนัขกัดของไม่ยอมปล่อย ผู้เลี้ยงบางคนใช้วิธีการตีปาก แต่นั่นเป็นการสร้างความก้าวร้าวและความกลัวให้แก่ลูกสุนัข ผู้เลี้ยงควรฝึกให้ลูกสุนัขปล่อยของ ออกคำสั่ง “ปล่อย” มือหนึ่งถือขนมสุดโปรดไว้เหนือจมูกของลูกสุนัข ให้พูดคำว่าปล่อยซ้ำ ๆ จนพวกเขาปล่อย เมื่อปล่อยค่อยให้รางวัลค่ะ
5. เตรียมของเล่นสำหรับให้กัดแทะเล่นเมื่อทิ้งให้อยู่ลำพัง
      เมื่อเราไม่อยู่บ้านควรกั้นคอกหรือจัดพื้นที่ให้ลูกสุนัข ทิ้งของเล่นไว้หลาย ๆ  ชิ้น เพื่อให้พวกเขานอนกัดแทะเล่น ปลดปล่อยพลังงานขณะรอผู้เลี้ยงกลับบ้าน ซึ่งจะสามารถช่วยให้น้องหมาไม่ก่อพฤติกรรมก้าวร้าวในอนาคตได้ค่ะ
ที่มา – https://pedigree.co.th/PuppyClub/Content/View.aspx?id=34

กุ้งอบชีส

วิธีทำกุ้งอบชีส

ส่วนผสม กุ้งอบชีส

• กุ้งสด (ผ่าหลังดึงเส้นดำออก) 5 ตัว
• เนยสด (อุณหภูมิห้อง) 3 ช้อนโต๊ะ
• ต้นหอมซอย 1 ช้อนชา
• เกลือ นิดหน่อย
• กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา
• พริกไทยดำ นิดหน่อย
• ชีส มากน้อยตามใจชอบ

วิธีทำกุ้งอบชีส

วิธีทำกุ้งอบชีส

วิธีทำกุ้งอบชีส

• นำเนยสด ต้นหอมซอย เกลือ กระเทียมสับ และพริกไทยดำ ผสมให้เข้ากัน

วิธีทำกุ้งอบชีส

• โปะส่วนผสมเนยสดที่ตัวกุ้งแบบเน้น ๆ ตามรูป

วิธีทำกุ้งอบชีส

• จัดเต็มชีสใส่ไปบนหลังกุ้งตามใจชอบ

วิธีทำกุ้งอบชีส

• นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที
วิธีทำกุ้งอบชีส

คลิปวีดิโอการทำ
ที่มา – http://cooking.kapook.com/view149844.html
ขอขอบคุณ คลิปวีดิโอ รูปภาพและสูตรกุ้งอบชีสจาก –  คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม 
สามารถติดตามคุณ Kitty Chef ได้ที่ – ครัวไทยใน Youtube : KittyChef

MAC AND CHEESE RECIPE

Ingredients ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มือชี้

  • 250g/9oz macaroni
  • 40g/1½oz butter
  • 40g/1½ plain flour
  • 600ml/1pint 1½fl oz milk
  • 250g/9oz grated cheddar
  • 50g/2oz grated parmesan (or a similar vegetarian alternative)

Method ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มือชี้

  1. Cook the macaroni in a large saucepan of boiling salted water for 8-10 minutes; drain well and set aside.

  2. Melt the butter over a medium heat in a saucepan slightly larger than that used for the macaroni. Add the flour and stir to form a roux, cooking for a few minutes.

  3. Gradually whisk in the milk, a little at a time. Cook for 10-15 minutes to a thickened and smooth sauce.

  4. Meanwhile, preheat the grill to hot.

  5. Remove the sauce from the hob, add 175g/6oz of the cheese and stir until the cheese is well combined and melted.

  6. Add the macaroni to the sauce and mix well. Transfer to a deep suitably-sized ovenproof dish.

  7. Sprinkle over the remaining cheddar and the parmesan and place the dish under the hot grill. Cook until the cheese is browned and bubbling. Serve straightaway.

Thanks source – http://www.bbc.co.uk/food/recipes/macaronicheese_83521

ทะเลแหวกกระบี่!!

หน้าหนาวแต่อากาศร้อนเป็นอะไรที่ควรจะไปทะเลมากๆเลยค่ะ เผื่อท่านที่อยากไปทะเลแต่ยังตัดสินใจไม่ได้ ลองไปที่ทะเลแหวกกระบี่รับรองว่าไม่เสียใจแน่นอนค่ะ

ทะเลแหวก  (กระบี่)

ทะเลแหวก อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุด Unseen Thailand ความภูมิใจของชาวกระบี่ที่มีจุดสวยงามอย่าง มหัศจรรย์ ที่เราสามารถเดินเหยียบทรายขาวละเอียด จากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่งได้เวลาน้ำลด ทะเลแหวกเกิดจาก สันทรายจากเกาะสามเกาะ คือเกาะไก่ เกาะหม้อ เกาะทับ ทั้งสามเกาะนี้เป็น3 เกาะเด่นที่อยู่ใน หมู่เกาะปอดะ

ทะเลแหวก

ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆกัน มีสันฐาณติดกันเมื่อคลื่นพัดทรายมาพบกันที่จุดนี้จึงทำให้เกิดเป็น แนวสันทราย เชื่อมเกาะทั้งสามเกาะนี้ให้ถึงกัน สันทรายนี้จะจมหายไปเมื่อน้ำขึ้นสูง เมื่อน้ำลดแนวสันทรายก็จะค่อยๆ โผล่ขึ้นมา เหมือนกับว่าแบ่งทะเลให้้แยกออกกันเป็นสามส่วน สันทรายจะโผล่ในช่วงที่น้ำทะเลลดต่ำสุด แต่ถึงแม้ว่าสันทราย จะไม่โผล่เราก็สามารถเดินเล่น ได้ หาดทรายของทะเลแหวกนี้ขาวสะอาดน่าเล่นน้ำ การท่องเที่ยวทะเลแหวกจะนิยมท่องเที่ยวทั้งหมด 4 เกาะ คือเกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ เกาะปอดะ ซึ่งสามารถเที่ยวได้ใน 1 วัน

 

ทะเลแหวก

เริ่มจาก เกาะไก่ ที่เรียกว่าเกาะไก่ก็เพราะว่าทางด้านปลายสุดของเกาะมีหินแหลมๆ เมื่อมองขึ้นไปแล้วคล้ายคอไก่ เกาะไก่เป็นเกาะที่สามารถหยุดเรือแล้วลงไปว่ายน้ำได้โดยสามารถลงไปเล่นน้ำแล้วให้อาหารปลาด้วยการ ให้ขนม ปังโรย ไว้รอบๆตัวแล้วปลาก็จะมาอยู่ล้อมรอบเราต่อด้วยเกาะทับ เกาะที่เราสามารถมองเห็นปะการังน้ำตื้นได้ โดยที่ไม่ต้องลงไปดำกันลึกๆ แวะพักเล่นน้ำให้ ในบรรยากาศอันเงียบสงบ

 

ทะเลแหวก

จากนั้นก็จบด้วยเกาะปอดะ เกาะที่มีหาดทรายขาวละเอียด นุ่มเท้า น้ำทะเลสีฟ้าใส  เกาะปอดะเหมาะกับ การมา เที่ยวพักผ่อนและเล่นน้ำซะมากกว่าที่จะมาดำน้ำชมปะการัง เพราะในย่านนี้ไม่ค่อยมีที่พอมีก็ไม่สวยทะเลกระบี่ เหมาะกับการมาท่องเที่ยวพักผ่อนชมวิว เล่นน้ำการมาชมทะเลแหวก ควรมาชมในช่วงเวลาน้ำลงต่ำสุด ในแต่ละวัน โดยเฉพาะ ในวันก่อน และหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเที่ยวทะเลแหวกคือ ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ถึง ต้นพฤษภาคม

 

ทะเลแหวก

จุดเด่น ของการเที่ยวชมทะเลจะแหวกคือการมาชมวิว ถ่ายภาพ ควรหลีกเลี่ยงการมาเที่ยวในช่วงวันหยุดเทศกาล ทะเลแหวกจะมีคนเยอะเดินกันจนแน่นไปหมด ถ้าจะมาชมทะเลแหวกให้ประทับใจควรเลือกมาใน ช่วงวันหยุด ธรรมดานอก จากชมวิวถ่ายภาพทะเลแหวกแล้วที่นี่ยังเป็นอีกชายหาดหนึ่งที่น่าลงเล่นน้ำเพราะ มีแนวหาดทราย กว้าง น้ำใส ปลาเยอะ แต่ถ้าจะมาเล่นน้ำก็แนะนำให้มาในช่วงวันหยุดธรรมดา(เสาร์-อาทิตย์)หากมาวันหยุด เทศกาลคนเยอะไม่สนุก

 

ทะเลแหวก

ขอบคุณที่มาจาก – http://phuketairportthai.com/th/popular-destinations/1909/thale-waek-krabi

10 อันดับสุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลก

วันนี้จะพามาดูอันดับสุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลก ไว้เป็นความรู้สำหรับคนที่ชอบสุนัขกันนะคะ

10.Australian Catte

 

เป็นสุนัขสายพันธุ์ใหม่ ที่มีต้นกำเนิดมาจากการทดลองผสมข้ามพันธุ์ มีความอดทนเหมือนสุนัขพื้นเมือง มีความสามารถทางปศุสัตว์ มีลักษณะนิสัยคือซื่อสัตย์และฉลาด

1

9.Rottweiler

 

ในปัจจุบันได้มีการปรับปรุงสายพันธุ์ให้เป็นสุนัขที่มีความฉลาด พวกมันชอบการสัมผัสอย่างทะนุถนอม และสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว หากได้รับการฝึกฝนที่ดีจะเป็นสุนัขที่เชื่อฟังคำสั่ง ใจเย็น เป็นทั้งเพื่อนและยามเฝ้าบ้านที่ดี มีลัษณะนิสัยเป็นสายพันธุ์ที่มีสัญชาตญาณที่ต้องเอาตัวรอด

2

8.Papillon

 

หมาพันธุ์นี้มีลักษณะนิสัยฉลาด แข็งแรง กล้าหาญ รักเจ้าของ ขี้เล่น กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งรอบข้าง เป็นมิตร และพร้อมที่จะปกป้องเจ้าของจากผู้บุกรุกด้วยนะเหมียว

3

7.Labrador Retriever

หมาพันธุ์นี้มีลักษณะนิสัยเป็นมิตร ใจดี ฉลาด สุภาพ ไม่ก้าวร้าว ตอบสนองรวดเร็ว ปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ได้ง่าย สามารถฝึกให้มีความสามารถได้หลายอย่าง เช่น ค้นหาผู้ประสบภัย ค้นหายาเสพติด ฯลฯ

4

6.Shetland Sheepdog

หมาพันธุ์นี้มีลักษณะนิสัยฉลาด มีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ เข้ากับเด็กๆได้ง่าย และมีสัญชาตญาณที่ดีด้วย

5

5.Doberman Pinscher

 

หมาพันธุ์นี้มีความฉลาดมาก มีลักษณะนิสัยที่กล้าหาญ ตื่นตัว เชื่อฟังคำสั่ง คอยระวังภัยตลอดเวลา จัดว่าเป็นสุนัขอารักขาที่ดีที่สุดในโลกเลยล่ะ

6

4.Golden Retriever

 

หมาพันธุ์นี้เป็นหมาที่เรามักจะได้เห็นในหนังเรื่องต่างๆค่อนข้างบ่อย โดยทั่วไปมีลักษณะนิสัยที่เป็นมิตร สุภาพ ใจดี ซื่อสัตย์ มีความจำเป็นเลิศ กระฉับกระเฉง ฝึกง่าย

7

3.German shepherd

 

ลักษณะนิสัยกระตือรือร้น ตื่นตัว กล้าหาญ ร่าเริง เชื่อฟัง กระหายที่จะเรียนรู้และฉลาดมาก มักถูกใช้ต้อนแกะ เฝ้ายาม กิจกรรมต่างๆ ของตำรวจ นำทางคนตาบอด แกะรอยค้นหา

8

2.Poodle

 

เป็นสุนัขพันธุ์ป๊อปปูล่าที่คนนิยมเลี้ยงที่สุดเลยก็ว่าได้ เสน่ห์ของสุนัขพันธุ์นี้อยู่ที่ความฉลาด รู้ภาษา ร่าเริง ช่างประจบประแจง

9

1.Border Collie

 

หมาพันธุ์นี้มีลักษณะนิสัยที่ขี้เล่น ร่าเริง เป็นมิตร มีความสามารถในการเรียนรู้สูง มีความว่องไวต่อสิ่งกระตุ้นหรือสิ่งเร้าต่างๆ เช่น เสียง สิ่งเคลื่อนไหว และกลิ่นเลยทีเดียว

10

ขอบคุณที่มา – http://www.catdumb.com/10-clever-dog/